ผู้แทนสำนักงาน ปปส. ภาค 6 ปฏิบัติราชการ ณ จังหวัดพิจิตร ดังนี้

เมื่อวันที่ : 24 ม.ค. 2567 13:46
หน่วยงาน : สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 6
31 ครั้ง
วันศุกร์ที่ 19 มกราคม 2567 สำนักงาน ปปส.ภ.6 โดยนายเอกชัย รัตนจันทร์ศิริ ผอ.ปพ. นางสาวเนาวรัตน์ นาคดี นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการ ปพ. และนายวิทวรรณ นุชแผน นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการ วฝ. ดำเนินการดังนี้ 

 
1. เวลา 10.00 น. เข้าร่วมการประชุมคณะอนุกรรมการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการป้องกัน ปราบปราม และบำบัดรักษายาเสพติดจังหวัดพิจิตร (โต๊ะข่าว) ณ ห้องประชุมหลวงพ่อเพชร ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดพิจิตร โดยมีนายกฤษฎิ์ สิทธิยศ ป้องกันจังหวัดพิจิตร เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วยส่วนราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม โดยมีสาระสำคัญในการประชุมสรุปดังนี้
    1.1 สำนักงาน ปปส.ภ.6 นำเสนอดังนี้
          1.1.1 สถานการณ์ปัญหายาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ไตรมาส 1 ปีงบประมาณ 2567 โดยมีตัวยาที่ควรเฝ้าระวังการแพร่ระบาดคือ Fluoro amphetamine ซึ่งจัดเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 โดยมีการตรวจยึดได้ที่อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ 
          1.1.2 สาระสำคัญของพระราชบัญญัติพืชกระท่อม พ.ศ. 2565 และประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การปิดประกาศหรือการแจ้งให้บุคคลที่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายทราบถึงข้อห้ามขายใบกระท่อม หรืออาหารตามกฎหมายว่าด้วยอาหารที่มีใบกระท่อมเป็นวัตถุดิบหรือส่วนประกอบ พ.ศ. 2566 ซึ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม 2566 เป็นต้นไป
          1.1.3 ติดตามผลการดำเนินงานตามเป้าหมาย และตัวชี้วัด ได้แก่ ร้อยละ 92 ของพื้นที่แพร่ระบาดเป้าหมายได้รับการป้องกันปัญหายาเสพติดอย่างครบถ้วน พร้อมทั้งเน้นย้ำการดำเนินงานในพื้นที่เป้าหมายหมู่บ้านชุมชนแพร่ระบาดยาเสพติด ของจังหวัดพิจิตร จำนวน 39 หมู่บ้านชุมชน และอำเภอเป้าหมายการค้าและแพร่ระบาด คือ อำเภอเมืองจังหวัดพิจิตร พร้อมทั้งรายงานผลการดำเนินงานลงในระบบ Nispa
          1.1.4 เน้นย้ำการตรวจสอบสถานะผู้ติดยาเสพติดที่มีอาการทางจิต โดยจังหวัดพิจิตร มีกลุ่มเฝ้าระวังสูง 1 คน และกลุ่มเฝ้าระวัง 86 คน ซึ่งเป็นข้อมูลจากตำรวจ โดยดำเนินการตาม พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งประธานมีข้อสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ฝ่ายปกครอง ตำรวจ สาธารณสุข และสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดพิจิตร มีการประชุมกันหารือเพื่อตรวจสอบทบทวนเป้าหมายผู้ติดยาเสพติดที่มีอาการทางจิตในพื้นที่ โดยในลำดับแรกให้ไปตรวจสอบข้อมูลของผู้ป่วยที่เป็นกลุ่มเฝ้าระวังสูง 1 คนข้างต้น และใช้แนวทางการดูแล นำเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาตามรูปแบบเก้าเลี้ยวโมเดล
    1.2 ผู้แทนสำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดพิจิตร แจ้งว่า มีแผนที่จะดำเนินโครงการท้องถิ่นร่วมใจแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืนด้วยกีฬาฟุตบอลสู่ความเป็นเลิศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ อปท. ใช้กีฬาฟุตบอล เพื่อส่งเสริมเยาวชนให้มีพลานามัยที่ดี หลีกเลี่ยงการเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งเป็นโครงการของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
    1.3 ผู้แทนตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร นำเสนอ
          1.3.1 ผลการจับกุมคดียาเสพติด ตั้งแต่วันที่ 1 – 19 มกราคม 2567 ได้จำนวนทั้งสิ้น 55 คดี และตรวจยึดของกลางยาบ้าได้จำนวนทั้งสิ้น 8,348 เม็ด
          1.3.2 ผลการยึดอายัดทรัพย์สินคดียาเสพติด ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 – 17 มกราคม 2567 ได้จำนวนทั้งสิ้น 378,600 บาท คิดเป็นร้อยละ 0.53 จากเป้าหมาย 72 ล้านบาท
          1.3.3 เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา มีการจับกุมนายเบิร์ด อายุ 38 ปี อาศัยอยู่ที่ อ.สากเหล็ก จ.พิจิตร ได้ที่บริเวณร้านค้าถนนบึงสีไฟ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิจิตร พร้อมของกลางเคตามีน 98.3 กรัม ยาบ้า 40,400 เม็ด
    1.4 ผู้แทนสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิจิตร นำเสนอ
          1.4.1 ผลการดำเนินงานตามตัวชี้วัด Retention rate ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 – 18 มกราคม 2567  เป้าหมาย ร้อยละ 62 ดำเนินการได้ร้อยละ 35
          1.4.2 มีการนำส่ง (Refer) ผู้ป่วยไปยังสถานฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด จำนวนทั้งสิ้น 18 คน แบ่งเป็น กองบิน 4 จังหวัดนครสวรรค์ จำนวน 16 คน กองบิน 46 จังหวัดพิษณุโลก จำนวน 2 คน
          1.4.3 จำนวนผู้ป่วย SMI-V ของจังหวัดพิจิตร ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม – 24 ธันวาคม 2566 จำนวนทั้งสิ้น 51 ราย พร้อมทั้งแนวทางการดูแลผู้ป่วยจิตเวชและยาเสพติดที่มีความเสี่ยงสูงต่อการก่อความรุนแรง (SMI-V) โดยโรงพยาบาลพิจิตรมีการจัดตั้งหอผู้ป่วยจิตเวชและยาเสพติด จำนวน 10 เตียง และโรงพยาบาลบางมูลนากจัดตั้งเป็นมินิธัญญารักษ์ ให้การดูแลแบบ Intermediate Care เป็นเวลา 2 เดือน จำนวน 5 เตียง

2. เวลา 13.00 น. ลงพื้นที่อำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดพิจิตร เพื่อติดตามกลุ่มเสี่ยงที่ได้รับทุนประกอบอาชีพจากสำนักงาน ปปส.ภ.6 จำนวน 2 ราย คือ นายพัฒนพงษ์ ขำรอด ประกอบอาชีพขายอาหารและน้ำดื่ม โดยนายพัฒนพงษ์ฯ ยังคงประกอบอาชีพขายน้ำดื่มอยู่ แต่ลดขนาดของร้านลง เนื่องจากมีการเปลี่ยนสถานที่ขาย ซึ่งเดิมขายอยู่ในบึงสีไฟ แต่เนื่องจากบึงสีไฟมีการปิดปรับปรุงสถานที่บางส่วน จึงเปลี่ยนสถานที่ขาย  และนายอาจินต์ กล่ำอาจ ประกอบอาชีพช่างตัดผม โดยนายอาจินต์ฯ ยังคงประกอบอาชีพช่างตัดผมอยู่

3. เวลา 14.30 น. ลงพื้นที่ชุมชนบึงสีไฟ ตอนล่าง หมู่ที่ 13 เทศบาลเมืองพิจิตร ซึ่งเป็นเป้าหมายพื้นที่ชุมชนแพร่ระบาดยาเสพติด เพื่อสืบสภาพชุมชน โดยชุมชนดังกล่าว มีครัวเรือน จำนวนทั้งสิ้น 300 กว่าหลังคาเรือน ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบอาชีพค้าขาย มีคณะกรรมการชุมชน จำนวน 7 คน มีผู้ค้า 3 คน ผู้เสพ 5 คน และผู้ติดยาเสพติดที่มีอาการทางจิต 2 คน (กินยาจิตเวชอยู่ 1 คน / ยังไม่ได้เข้ารับการรักษา 1 คน) ยาเสพติดที่แพร่ระบาดมากที่สุดเป็นยาบ้า ราคาเม็ดละ 30 บาท ในส่วนของน้ำต้มกระท่อมและกัญชา จะแพร่ระบาดในกลุ่มวัยรุ่น

ข่าวอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

YouTube search download
Q&A FAQ