วันศุกร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 10.00 น. สำนักงาน ปปส.ภ.6 โดยนายวิทวรรณ นุชแผน นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการ วฝ. และ นางสาวเนาวรัตน์ นาคดี นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการ ปพ. เข้าร่วมการประชุมคณะอนุกรรมการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการป้องกัน ปราบปราม และบำบัดรักษายาเสพติดจังหวัดพิจิตร (โต๊ะข่าว) ณ ห้องประชุมหลวงพ่อพิธ 3/2 ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดพิจิตร โดยมีนายกฤษฎิ์ สิทธิยศ ป้องกันจังหวัดพิจิตร เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วยส่วนราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม โดยมีสาระสำคัญในการประชุมสรุปดังนี้
1. สำนักงาน ปปส.ภ.6 นำเสนอดังนี้
1.1 สถานการณ์ปัญหายาเสพติด ในพืันที่ภาคเหนือตอนล่าง เดือนมกราคม 2567 โดยมีตัวยาที่ควรเฝ้าระวังการแพร่ระบาด โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน คือ อมยิ้มสายปาร์ตี้ ที่มีการซื้อขายกันทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยตัวยาดังกล่าวมีส่วนผสมของวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ประเภท 2 ได้แก่ คีตามีน ไนเมตาซีแพม และฟลูไนตราซีแพม
1.2 กฎกระทรวงกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ พ.ศ. 2567 โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567 เป็นต้นไป ซึ่งเมทแอมเฟตามีน มีปริมาณไม่เกิน 5 หน่วยการใช้ โดยทางผู้แทนตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตรให้ข้อสังเกตว่า กรณีพบผู้ครอบครองยาเสพติดไม่เกินปริมาณที่กำหนด ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ ซึ่งการหาพยานหลักฐานว่าผู้นั้นไม่ได้มียาเสพติดไว้เพื่อเสพ ค่อนข้างทำได้ยาก นอกจากการล่อซื้อ
1.3 ติดตามผลการดำเนินงานตามเป้าหมาย และตัวชี้วัด ได้แก่ ร้อยละ 92 ของพื้นที่แพร่ระบาดเป้าหมายได้รับการป้องกันปัญหายาเสพติดอย่างครบถ้วน เป็นต้น
2. ผู้แทนตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร นำเสนอ
2.1 ผลการจับกุมคดียาเสพติด ตั้งแต่วันที่ 1 – 22 กุมภาพันธ์ 2567 ได้จำนวนทั้งสิ้น 66 คดี และตรวจยึดของกลางยาบ้าได้จำนวนทั้งสิ้น 15,184 เม็ด ไอซ์ 2.72 กรัม และยาอี 2.95 เม็ด
2.2 เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 กก.สืบสวน ภ.จว.พิจิตร ได้รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีคนนำยาเสพติดมาวางที่หลักกิโลเมตรที่ อบต.กม.0 อบต.สากเหล็ก อำเภอสากเหล็ก เพื่อส่งของ จึงนำกำลังไปดักซุ่มรอ และได้พบยาบ้า จำนวน 10,000 เม็ด แต่ไม่พบตัวผู้นำมาวาง จึงได้ทำการตรวจยึดยาบ้าดังกล่าวไว้
3. ผู้แทนสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิจิตร นำเสนอผลการดำเนินงานตามตัวชี้วัด Retention rate ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 – 20 กุมภาพันธ์ 2567 เป้าหมาย ร้อยละ 62 ดำเนินการได้ร้อยละ 54.84
4. ศป.ปส.อ. ได้สะท้อนปัญหาว่า ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด มาตรา 114 กรณีเจ้าหน้าที่พบผู้เสพยาเสพติด แต่เขาสมัครใจที่จะเข้ารับการบำบัดรักษา และไม่มีลักษณะต้องห้าม ก็ให้นำตัวผู้นั้นไปส่งยังศูนย์คัดกรองหรือสถานพยาบาลยาเสพติด แต่ส่วนใหญ่ผู้ป่วยมักจะหลบหนี ไม่มาเข้ารับการบำบัดรักษาครบตามโปรแกรมที่โรงพยาบาลกำหนด ซึ่งผู้แทน สสจ.พิจิตร ได้เสนอว่า โรงพยาบาลจะทำหนังสือแจ้งผลการบำบัดไปยังเจ้าหน้าที่ผู้นำส่งเพื่อทราบ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ต้องร่วมกันพิจารณาเป็นรายเคสว่า ในกรณีที่พบตัวอีกครั้ง จะดำเนินการอย่างไร ได้แก่ ให้เข้ารับการบำบัดอีกครั้ง หรือส่งตัวผู้นั้นไปเข้ารับการฟื้นฟูที่สถานฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดของทหาร หรือส่งดำเนินคดี