วันศุกร์ที่ 12 กรกฎาคม 2567 เวลา 10.00 น. สำนักงาน ปปส.ภ.6 โดยนายวิทวัส บุญธรรมกุล นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ และนางสาวเนาวรัตน์ นาคดี นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการ ส่วนประสานพื้นที่ เข้าร่วมประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นของผู้ประกอบการในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมพิจิตร จังหวัดพิจิตร ตามแผนงาน "โครงการ Factory & Partner Visit" ประจำปีงบประมาณ 2567 ณ ห้องประชุม ชั้น 3 สำนักงานนิคมอุตสาหกรรมพิจิตร โดยมีนายประทีป เอ่งฉ้วน รองผู้ว่าการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สายงานปฏิบัติการ 1 เป็นประธานการประชุม วัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ประเด็นเกี่ยวกับความร่วมมือ "โครงการปลุกพลังนิคม อุตสาหกรรม ร่วมต้านภัยยาเสพติด" ตามความร่วมมือในบันทึก MOU ร่วมกับสำนักงาน ป.ป.ส. เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2567 พร้อมด้วยส่วนราชการและภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องตาม MOU ประกอบด้วย ผกก.สภ.วชิรบารมี ผอ.รพ.สต.บ้านบัวยาง ต.หนองหลุม ปลัดอำเภอวชิรบารมี รองนายก อบต.หนองหลุม ผู้แทนสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดพิจิตร ผู้อำนวยการสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมพิจิตร และผู้ประกอบการภายในนิคมอุตสาหกรรมพิจิตร สาระสำคัญในการประชุม ดังนี้

1.) ผู้แทน สำนักงาน ปปส.ภ.6 ร่วมชี้แจงกิจกรรมที่ดำเนินการบทบาท/ภารกิจดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตาม  MOU 10 ขั้นตอน ทั้งนี้ตามแนวทางที่สำนักพัฒนาการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด (สพป.) กำหนด โดยเน้นหนัก ในขั้นตอนที่ 5 “รณรงค์สร้างการรับรู้เพื่อการป้องกันยาเสพติดให้แก่ผู้ใช้แรงงาน/ผู้ประกอบการ” ด้วยการให้การสนับสนุนการดำเนินงาน สนับสนุนข้อมูลวิชาการ / สื่อต้นแบบ ให้คำปรึกษา ในการพัฒนาและผลิตสื่อเพื่อใช้รณรงค์เผยแพร่ในสถานประกอบการในพื้นที่สำนักงานนิคมอุตสาหกรรมพิจิตร

2.) ประธานมีข้อเสนอแนะให้นำข้อมูลผลการดำเนินงานและแผนการดำเนินงาน ในปีงบประมาณ 2568 ในด้านการป้องกันยาเสพติดในสถานประกอบการ มาเป็นแนวทางให้นิคมอุตสาหกรรมพิจิตรจัดทำแผนในการขับเคลื่อนงานร่วมกับสำนักงาน ปปส.ภ.6 ต่อไป

3.) ทั้งนี้ในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง มีนิคมอุตสาหกรรมเพียง 1 แห่ง คือ นิคมอุตสาหกรรมพิจิตร โดยมีสถานประกอบที่อยู่ภายใต้นิคมอุตสาหกรรมแห่งนี้ จำนวนทั้งสิ้น 15 แห่ง ซึ่งประกอบอุตสาหกรรมในด้านการผลิตกระแสไฟฟ้า การผลิตอาหารสัตว์ คลังเก็บและบรรจุก๊าซปิโตรเลียมเหลว ซึ่งมีสถานประกอบการที่ดำเนินโครงการโรงงานสีขาว และ มยส. จำนวน 8 แห่ง และจัดตั้งชมรม TO BE NEMBER ONE ในสถานประกอบการ จำนวน 1 แห่ง