เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2559 เวลา 09.30 น. ชุดประสานและสนับสนุน ศอ.ปส.จ./อ. ประจำจังหวัดเพชรบูรณ์ นำโดย นายกิตติชัย เหลืองกำจร ผชช.ภาค 6 และคณะ เข้าพบนายสมยศ รอดแช่ม
นายอำเภอหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ และปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง
เพื่อชี้แจงแนวทางการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามแผนประชารัฐร่วมใจ สร้างหมู่บ้านชุมชนมั่นคงปลอดภัยยาเสพติด พ.ศ.2559-2560 ระยะที่ 2 ในระดับอำเภอ โดยสรุปสาระสำคัญ ดังนี้
1.ขอการสนับสนุนการดำเนินงานด้านปราบปรามในพื้นที่ที่มีปัญหารุนแรง รวมถึงการพิจารณาจัดตั้งจุดตรวจเพื่อสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่
2.เสนอให้มีการขยายจำนวนหมู่บ้านกองทุนแม่ใหม่ ให้ครอบคลุมหมู่บ้านที่มีศักยภาพแก้ไขปัญหาตนเอง
3.การรายงานในระบบ NISPA ไม่ควรเปลี่ยนแปลง/ปรับปรุงหน้าจอบันทึกข้อมูลบ่อยเกินไปเพราะทำให้ผู้ปฏิบัติเกิดความสับสน รวมทั้งขอ จนท. สนับสนุนการรายงาน&งบประมาณ
4.ควรทำโครงการคืนคนดีสู่สังคม สำหรับกรณีนักค้ารายย่อยที่พ้นโทษ เพื่อไม่ให้กลับมากระทำความผิดซ้ำ
ต่อมา
วันที่ 11 ส.ค.59 เวลา 12.50 น.
ชุดประสานและสนับสนุน ศอ.ปส.จ./อ. ประจำจังหวัดเพชรบูรณ์ นำโดย นายกิตติชัย เหลืองกำจร ผชช.ภาค 6 และคณะ เข้าพบนายชาญชัย ศรศรีวิชัย
นายอำเภอหล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ และปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง
เพื่อชี้แจงแนวทางการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามแผนประชารัฐร่วมใจ สร้างหมู่บ้านชุมชนมั่นคงปลอดภัยยาเสพติด พ.ศ.2559-2560 ระยะที่ 2 สรุปสาระสำคัญจากการหารือ ดังนี้
1.อำเภอมีปัญหาเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการแก้ไขในพื้นที่ ได้แก่ ปัญหาเรื่องภูทับเบิก
2.ขอกำลังสนับสนุนการดำเนินงานปราบปรามในพื้นที่ที่มีปัญหารุนแรง และได้ร่วมตรวจสอบข้อมูลหมู่บ้านวิกฤตตามที่ ป.ป.ส. จำแนกข้อมูล
3.อำเภอมีความพร้อมการจัดค่ายระดับอำเภอ ทั้งวิทยากรและด้านสถานที่ ซึ่งมีข้อดีที่จะทำให้ผู้เสพสมัครใจเข้าค่ายเพิ่มขึ้น เพราะไม่ต้องห่างไกลจากครอบครัว
4.ควรมีงบประมาณสนับสนุนให้ อปช. ในการให้ข้อมูล
ต่อมา
วันที่ 11 ส.ค.59 เวลา 15.00 น.
ชุดประสานและสนับสนุน ศอ.ปส.จ./อ. ประจำจังหวัดเพชรบูรณ์ นำโดย นายกิตติชัย เหลืองกำจร ผชช.ภาค 6 และคณะ เข้าพบนายกนกศักดิ์ หมื่นจันทร์ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อำเภอเขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ เพื่อชี้แจงแนวทางการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามแผนประชารัฐร่วมใจ สร้างหมู่บ้านชุมชนมั่นคงปลอดภัยยาเสพติด พ.ศ.2559-2560 ระยะที่ 2 สรุปสาระสำคัญจากการหารือ ดังนี้
1. ชปต. มีภารกิจประจำมาก ทำให้การลงพื้นที่มีเฉพาะหน่วยหลักๆ (ปลัด ตร. ผู้นำ)เท่านั้น
2. การนำผู้เสพสารระเหยเข้าบำบัดรักษาโดยสมัครใจ (ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นตอนต้น) ต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้ปกครอง ไม่สามารถใช้วิธีการค้นหา คัดกรองผู้เสพแบบตัวยาชนิดอื่นๆได้
3.ผู้ค้าส่วนใหญ่มักไปกระทำความผิดนอกพื้นที่ และยังคงปรากฎข่าวสาร ม/ช ที่เป็นแหล่งพักยา